วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กำเนิดชีวิต

ความเป็นหญิง-ชาย อะไรที่เป็นตัวกำหนดว่าคนเราเกิดมาต้องเป็นเพศหญิง-เพศชายคนเราทุกคนจะเกิดขึ้นมาได้ต้องอาศัยทั้งพ่อและแม่ โดยที่คุณพ่อจะมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ขึ้นมาที่เรียกว่า สเปิร์ม (Sperm) ส่วนคุณแม่ก็จะมีหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์ขึ้นมาคือ เซลล์ไข่ (egg cell) ทั้งในสเปิร์ม และเซลล์ไข่มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากในการถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือการสืบทายาท คือ โครโมโซม (Chromosome)
สนใจคลิกที่นี่
http://www.oknation.net/blog/jareeya/2009/06/29/entry-1

โรคไข้หวัดใหญ่ 2009

รู้ทันไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

เรื่องของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ๆ จะไม่ใช่เรื่องไกลตัวของคนไทยอีกแล้ว เพราะเรามีโอกาสที่จะติดเชื้อเหล่านี้ได้ทุกเมื่อโดยไม่ทันตั้งตัว และไม่แน่ว่า... มันอาจจะเกิดขึ้นกับตัวคุณ และคุณเป็นผู้เริ่มต้นของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ก็เป็นได้

สนใจติดต่อที่ http://www.vcharkarn.com/varticle/38631

พืชมีดอกและพืชไร้ดอก


พืชมีมากมายหลายชนิด พืชแต่ละชนิดมีลักษณะแตกต่างกันหลายประการถึงแม้พืชแต่ละชนิดจะมีลักษณะแตกต่างกัน แต่พืชเหล่านี้ก็มีลักษณะบางประการที่เหมือนกันด้วย ดังนั้นจึงสามารถใช้ลักษณะที่เหมือนกันของพืชเป็นเกณฑ์ในการจำแนกพืช เพื่อทำให้ง่ายต่อการศึกษาเกี่วกับการดำรงชีวิตของพืช เราสามารถจำแนกพืชออกเป็น 2 พวกใหญ่ ได้ดังนี้

1. พืชมีดอก คือ พืชที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วมีส่วนของดอกสำหรับใช้ในการผสมพันธุ์ เพื่อให้เกิดเป็นพืชต้นใหม่ พืชมีดอกจัดเป็นพืชชั้นสูง เพราะมีส่วนประกอบสำคัญๆ คือ ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล และเมล็ด เช่น กุหลาบ กล้วยไม้ ชบา ทานตะวัน มะม่วง ชมพู่

2. พืชไม่มีดอก หรือพืชไร้ดอก คือ พืชที่ไม่มีดอกเลย ตลอดการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเจริญเติบโตเต็มที่แล้วก็ตาม พืชจำพวกนี้จึงไม่มีดอกสำหรับใช้ในการผสมพันธุ์ แต่จะสืบพันธุ์โดยการสร้างสปอร์ซึ่งจะงอกเป็นต้นใหม่ได้ เช่น เฟริร์น เห็ด สน ปรง ผักกูด

พืชมีดอกและพืชไร้ดอกมีวิธีแพร่พันธุ์แตกต่างกัน พืชมีดอกจะอาศัยดอกในการสืบพันธุ์ เรียกว่า การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ และยังสามารถสืบพันธุ์โดยวิธีอื่นที่ไม่ต้องใช้ดอก เรียกว่า การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ ส่วนพืชไร้ดอกจะสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ.........ดอกของพืชเป็นส่วนประกอบที่พืชใช้ในการสืบพันธุ์ ดอกของพืชมีส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนี้..............1. กลีบเลี้ยง จะเรียงตัวเป็นชั้นอยู่ด้านนอกสุด มีสีเขียวคล้ายใบมีหน้าที่ช่วยห่อหุ้มส่วนที่อยู่ข้างในของดอกไว้ขณะที่ดอกยังอ่อนอยู่เพื่อป้องกันอันตรายจากแมลง..............2. กลีบดอก เป็นชั้นที่อยู่ถัดเข้ามา มักมีสีสันสวยงาม เพื่อช่วยล่อแมลงให้มาตอมเพื่อช่วยผสมเกสร..............3. เกสรตัวผู้ เป็นชั้นที่อยู่ถัดเข้ามาจากกลีบดอกเป็นอวัยวะสร้างเซลล์สืบพันธุ์ตัวผู้ มักมีหลายอัน เกสรตัวผู้แต่ละอันประกอบด้วย ก้านชูอับละอองเรณู อับละอองเรณู และละอองเรณู ..............4. เกสรตัวเมีย เป็นส่วนที่อยู่ชั้นในสุด ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์ตัวเมีย เกสรตัวเมียประกอบด้วย ยอดเกสรตัวเมีย รังไข่ และไข่ (ออวุล).........ดอกไม้บางชนิดมีองค์ประกอบทั้ง 4 ส่วน แต่ดอกไม้บางชนิดมีองค์ประกอบไม่ครบทั้ง 4 ส่วน ทำให้สามารถแบ่งประเภทของดอกไม้โดยใช้องค์ประกอบของดอกเป็นเกณฑ์ได้ โดยใช้ลักษณะของดอกเป็นเกณฑ์ ได้ดังนี้ 1. ใช้ส่วนประกอบของดอกเป็นเกณฑ์...............- ดอกสมบูรณ์...............- ดอกไม่สมบูรณ์ 2. ใช้เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียเป็นเกณฑ์.............- ดอกสมบูรณ์เพศ.............- ดอกไม่สมบูรณ์เพศ การสืบพันธุ์ของพืชไม่มีดอก พืชไม่มีดอกที่รู้จักโดยทั่วไป เช่น เฟิร์น มอส ปรง เป็นต้น ตัวอย่างพืชที่ไม่มีดอกจำพวกเฟิร์นซึ่งเป็นพืชไม่มีดอกแล้วยังไม่มีเมล็ดและไม่มีผลอีกด้วย มักจะพบมากในเขตร้อนและนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ การสืบพันธุ์ของเฟิร์น คือ การสร้างสปอร์ซึ่งต้นเฟิร์นที่พบโดยทั่วไปสามารถสร้างสปอร์ได้ สปอร์จะอยู่ภายในอัปสปอร์ และจะพบอัปสปอร์อยู่ทางด้านหลังใบ หรือท้องใบ

Cradit : http://student.nu.ac.th/pannipa_j/lessen4.html